Site icon ThaiHiv365

ถาม-ตอบ

Table of Contents

ทำไมต้องตรวจ เอชไอวี

  • หากมีผมเลือดเป็นลบ ก็จะได้สบายใจ
  • วางแผนในการป้องกัน อาจจะทาน เพร็พ
  • ทำให้ตัวเอง อยู่สถานะลบ ต่อไป
  • หากมีผลเลือดบวก ก็สามารถรักษาได้
  • มีชีวิต ปกติ
  • และวางแผน อนาคตได้

เอชไอวี คืออะไร ?

เอชไอวี (HIV) ย่อมาจาก Human Immunodeficiency Virus หรือไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องในมนุษย์ เป็นไวรัสที่ทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด CD4 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและนำไปสู่ภาวะเอดส์ (AIDS) ได้

เอชไอวี ติดต่อกันได้อย่างไร ?

การติดต่อของเอชไอวีเกิดขึ้นผ่านการสัมผัสกับของเหลวในร่างกายที่มีเชื้อ ได้แก่ เลือด น้ำอสุจิ สารคัดหลั่งจากช่องคลอดและทวารหนัก และน้ำนมแม่ วิธีการติดต่อหลัก คือ

  • การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
  • การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
  • การถ่ายเลือดที่ปนเปื้อนเชื้อ (ปัจจุบันมีมาตรการคัดกรองที่เข้มงวด)
  • การส่งต่อจากแม่สู่ลูกระหว่างการตั้งครรภ์ การคลอด หรือการให้นมบุตร

เอชไอวี ไม่ติดต่อกันทางใดบ้าง ?

เอชไอวี ไม่ติดต่อผ่านการสัมผัสทั่วไป เช่น

  • การจับมือ กอด หรือจูบ
  • การใช้ภาชนะอาหารหรือเครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกัน
  • การไอหรือจาม
  • การใช้ห้องน้ำร่วมกัน
  • การสัมผัสเหงื่อ น้ำตา หรือปัสสาวะ

การรักษาเอชไอวีในปัจจุบันเป็นอย่างไร ?

แม้เอชไอวีจะยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่การใช้ยาต้านไวรัส (Antiretroviral Therapy หรือ ART) สามารถควบคุมปริมาณไวรัสในร่างกายให้อยู่ในระดับต่ำจนตรวจไม่พบ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้โรคพัฒนาไปสู่ภาวะเอดส์ และลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น การเริ่มต้นการรักษาอย่างเร็วที่สุดหลังทราบว่าติดเชื้อจะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีอายุยืนยาวเหมือนคนทั่วไป

สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้อย่างไร ?

  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ทั้งช่องคลอด ทวารหนัก และช่องปาก
  • หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
  • การใช้ยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อ (PrEP) สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
  • การใช้ยาป้องกันหลังจากการสัมผัสเชื้อ (PEP) ควรเริ่มภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากมีความเสี่ยง
  • การตรวจหาเชื้อเป็นประจำ เพื่อทราบสถานะสุขภาพของตนเองและป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหรือไม่ ?

ได้แน่นอน! ด้วยความก้าวหน้าในการรักษา ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีสามารถมีสุขภาพแข็งแรง ใช้ชีวิตตามปกติ ทำงาน สร้างครอบครัว และมีอายุยืนยาวได้เช่นเดียวกับคนทั่วไป ตราบใดที่รับประทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอ และดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม

การอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีมีความปลอดภัยหรือไม่ ?

การใช้ชีวิตหรือทำงานร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่เป็นอันตราย เพราะเอชไอวีไม่สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสในชีวิตประจำวันได้ การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและลดอคติจะช่วยให้ผู้ติดเชื้อสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขและไม่ถูกกีดกัน

ควรทำอย่างไรหากสงสัยว่าตนเองอาจติดเชื้อเอชไอวี ?

หากมีพฤติกรรมเสี่ยง ควรรีบตรวจหาเชื้อโดยเร็วที่สุด การตรวจพบเชื้อเร็วจะทำให้สามารถเริ่มต้นการรักษาได้ทันที ซึ่งจะช่วยควบคุมปริมาณไวรัสและป้องกันภาวะแทรกซ้อน นอกจากนี้ หากอยู่ในช่วงเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังการสัมผัสเชื้อ สามารถรับยาป้องกันหลังการสัมผัสเชื้อ (PEP) เพื่อป้องกันการติดเชื้อได้

การมีเพศสัมพันธ์ทางปากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ ?

ความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีผ่านเพศสัมพันธ์ทางปากค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทวารหนัก อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นหากมีแผลเปิด เลือดออกในปาก หรือโรคเหงือก การใช้ถุงยางอนามัยหรือแผ่นยางอนามัย สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้

การจูบสามารถแพร่เชื้อเอชไอวีได้หรือไม่?

การจูบแบบธรรมดาไม่ทำให้ติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากน้ำลายไม่สามารถแพร่เชื้อได้ ยกเว้นในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายมีแผลเปิดหรือเลือดออกในปาก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พบได้น้อยมาก

ถ้าฉันใช้ถุงยางอนามัย ฉันจะปลอดภัยจากเอชไอวี 100% หรือไม่ ?

การใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอสามารถป้องกันเอชไอวีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง แต่ไม่สามารถป้องกันได้ 100% เพราะถุงยางอาจแตกหรือรั่วได้ในบางกรณี อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจะลดลงอย่างมากเมื่อใช้อย่างถูกต้อง

การติดเชื้อเอชไอวีสามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ ?

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาเอชไอวีให้หายขาด แต่การใช้ยาต้านไวรัส (ART) สามารถควบคุมปริมาณไวรัสในร่างกายให้อยู่ในระดับต่ำจนตรวจไม่พบ ซึ่งช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีสุขภาพแข็งแรงและไม่สามารถแพร่เชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้

หากผลตรวจเอชไอวีเป็นลบ ฉันควรตรวจซ้ำอีกครั้งหรือไม่ ?

หากมีพฤติกรรมเสี่ยงในช่วง 3 เดือน ก่อนตรวจ ควรตรวจซ้ำอีกครั้งหลังจากผ่านช่วง "window period" (ช่วงที่ร่างกายยังไม่สร้างภูมิคุ้มกันเพียงพอที่จะตรวจพบ) เพื่อให้แน่ใจว่าผลตรวจถูกต้อง นอกจากนี้ การตรวจเป็นประจำทุก 3 - 6 เดือนเหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

ผู้หญิงที่ติดเชื้อเอชไอวีสามารถตั้งครรภ์ได้หรือไม่ ?

ได้ ผู้หญิงที่ติดเชื้อเอชไอวีสามารถตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรที่ปลอดเชื้อได้ หากได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างเคร่งครัดตลอดช่วงการตั้งครรภ์ การคลอด และหลีกเลี่ยงการให้นมบุตร ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการถ่ายทอดเชื้อสู่ทารกให้น้อยกว่า 1%

ถ้าฉันอยู่ในความสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอชไอวี ฉันจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร ?

  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
  • พิจารณาใช้ยา PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ตรวจสุขภาพและเอชไอวีเป็นประจำ
  • ผู้ติดเชื้อควรรับประทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ปริมาณไวรัสในร่างกายต่ำจนไม่สามารถแพร่เชื้อได้ (U=U: Undetectable = Untransmittable)

Exit mobile version