
เมื่อพูดถึง “วัคซีน HPV” หลายคนมักเข้าใจผิดว่านี่คือวัคซีนที่มีไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก แต่ในความเป็นจริง เชื้อไวรัส HPV ไม่ได้เลือกเหยื่อจากเพศใดเพศหนึ่ง มันสามารถติดเชื้อและก่อโรคร้ายแรงได้ในทุกเพศ ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งทวารหนัก มะเร็งลำคอ หรือหูดหงอนไก่ ซึ่งล้วนสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความสำคัญของวัคซีน HPV ในมิติที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย พร้อมไขข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และเหตุผลว่าทำไมทุกคนควรได้รับวัคซีนนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและปกป้องอนาคตสุขภาพของเราอย่างยั่งยืน
HPV คืออะไร และทำไมทุกเพศจึงควรใส่ใจ?
เชื้อไวรัส HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อผ่านการสัมผัสทางผิวหนัง โดยเฉพาะจากการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการสอดใส่หรือไม่ก็ตาม เชื้อชนิดนี้มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยมีประมาณ 14 สายพันธุ์ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปาก มะเร็งลำคอ และมะเร็งองคชาติ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดหูดหงอนไก่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต การติดเชื้อ HPV มักไม่มีอาการ ผู้ติดเชื้อจึงไม่ทราบว่าตนเองกำลังแพร่เชื้ออยู่ เชื้อจึงดำเนินต่อเนื่องโดยไม่มีการควบคุม การฉีดวัคซีน HPV จึงเป็นวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน เพื่อยุติวงจรการแพร่ระบาดนี้
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ วัคซีน HPV ที่ควรแก้ไข

หนึ่งในความเข้าใจผิดที่สำคัญคือ “วัคซีน HPV เป็นวัคซีนสำหรับผู้หญิงเท่านั้น” ความเชื่อนี้ฝังแน่นเพราะในอดีตวัคซีนนี้มุ่งเป้าไปที่การลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกในสตรี ซึ่งเป็นผลจากเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทางการแพทย์ในปัจจุบันระบุชัดเจนว่า HPV ส่งผลต่อทุกเพศ และสามารถก่อให้เกิดมะเร็งชนิดอื่นได้เช่นกัน การให้วัคซีนในเพศชายจะช่วยลดการติดเชื้อและแพร่เชื้อ HPV สู่คู่เพศสัมพันธ์ และลดความเสี่ยงของมะเร็งทวารหนักและมะเร็งลำคอ โดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ซึ่งมีอัตราการติดเชื้อสูง
เหตุผลทางการแพทย์ที่เพศชายควรได้รับ วัคซีน HPV
การฉีดวัคซีน HPV ในเพศชายมีความสำคัญทางการแพทย์หลายประการ ได้แก่
- การป้องกันมะเร็ง: HPV สามารถทำให้เกิดมะเร็งทวารหนัก ลำคอ และองคชาติ ซึ่งพบเพิ่มขึ้นในกลุ่มชายโดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือมีเพศสัมพันธ์กับชาย
- การหยุดยั้งการแพร่เชื้อ: วัคซีนช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น โดยเฉพาะในความสัมพันธ์ที่มีการเปลี่ยนคู่อยู่บ่อยครั้ง
- การลดความเสี่ยงของหูดหงอนไก่: เป็นโรคที่พบได้บ่อยในชายและหญิงซึ่งไม่ถึงกับเสียชีวิตแต่ส่งผลกระทบทางจิตใจอย่างมาก
ใครควรได้รับวัคซีน HPV และช่วงอายุที่เหมาะสม
ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของวัคซีน HPV ได้แก่
- เด็กหญิงและเด็กชายอายุ 9–14 ปี ควรได้รับวัคซีน 2 เข็มห่างกัน 6–12 เดือน ซึ่งให้ภูมิคุ้มกันดีที่สุด
- ผู้ที่มีอายุ 15–26 ปี สามารถได้รับวัคซีน 3 เข็ม
- ผู้ที่มีอายุ 27–45 ปี สามารถฉีดได้โดยปรึกษาแพทย์ โดยพิจารณาจากความเสี่ยงและประวัติทางเพศ
- กลุ่ม MSM และผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV ควรได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด เนื่องจากมีอัตราการติดเชื้อสูง
วัคซีน HPV กับการป้องกันมะเร็งในเพศชายและเพศหญิง

วัคซีน HPV ที่ได้รับการรับรองในระดับสากล เช่น Gardasil 4, Gardasil 9 และ Cervarix มีความสามารถในการป้องกันการติดเชื้อ HPV หลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ 16 และ 18 ที่เป็นสาเหตุหลักของมะเร็ง
ในเพศหญิง
- ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 90% หากได้รับวัคซีนก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
- ลดความเสี่ยงมะเร็งช่องคลอด ปากช่องคลอด และหูดหงอนไก่
ในเพศชาย
- ป้องกันมะเร็งทวารหนัก ลำคอ และองคชาติ
- ลดความเสี่ยงของการเกิดหูดหงอนไก่
- ลดโอกาสแพร่เชื้อสู่คู่นอน
ความปลอดภัยของ วัคซีน HPV จากข้อมูลวิจัยทั่วโลก
วัคซีน HPV ผ่านการทดสอบในหลายประเทศ และได้รับการอนุมัติจากองค์กรด้านสุขภาพชั้นนำ เช่น องค์การอนามัยโลก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สหรัฐอเมริกา และยุโรป
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
- ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด
- รู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อยหรือเป็นลม (พบได้น้อยมาก)
- อาการคล้ายไข้เล็กน้อยซึ่งหายได้เองใน 1–2 วัน
ยังไม่พบหลักฐานที่แสดงว่าวัคซีน HPV ทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงในระยะยาว การฉีดวัคซีนนี้จึงมีความปลอดภัยสูง และผลดีมีมากกว่าความเสี่ยง
คำแนะนำก่อนและหลังรับวัคซีน HPV
ก่อนฉีดวัคซีน
- แจ้งประวัติการแพ้วัคซีนหรือโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียดก่อนรับวัคซีน
หลังฉีดวัคซีน
- ควรพักสังเกตอาการที่สถานพยาบาลอย่างน้อย 15–30 นาที
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมออกแรงหนักในวันนั้น
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น เป็นลมหรือหายใจลำบาก ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
ประโยชน์ของวัคซีน HPV ต่อเพศชายและเพศหญิง

ในเพศชาย
- ป้องกันมะเร็งทวารหนัก มะเร็งลำคอ และมะเร็งองคชาติ
- ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้คู่เพศสัมพันธ์
- ป้องกันหูดหงอนไก่ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ
- ส่งเสริมภูมิคุ้มกันในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM)
ในเพศหญิง
- ป้องกันมะเร็งปากมดลูกซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของสตรีไทย
- ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งช่องคลอด และปากช่องคลอด
- ลดการติดเชื้อ HPV ชนิดรุนแรงที่ติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์
- ลดจำนวนการตรวจคัดกรองหรือรักษาที่ไม่จำเป็นหากได้รับวัคซีนตั้งแต่อายุน้อย
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม
- ตรวจ HIV ราคา เท่าไหร่? อัปเดตปี 2025 ตรวจที่ไหนได้บ้าง และมีแบบฟรีหรือไม่?
- Love2Test แพลตฟอร์มจองตรวจสุขภาพทางเพศออนไลน์ที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน
การฉีดวัคซีน HPV ไม่ใช่แค่เรื่องของการป้องกันมะเร็งในผู้หญิงอีกต่อไป แต่เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อป้องกันโรคร้ายในทุกเพศทุกวัย การส่งเสริมให้เยาวชนและผู้ใหญ่รับวัคซีนนี้อย่างทั่วถึงคือการลงทุนที่คุ้มค่าทั้งในเชิงสุขภาพและเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข